วายแอลจีเผยราคาทองคำเริ่มปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนกังวลเงินเฟ้อยังสูงแม้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย และหวั่นความตึงเครียดยูเครน-รัสเซียบานปลาย หลังพบหลายประเทศต้องการเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของ NATO ส่งผลนักลงทุนเริ่มเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ล่าสุด SPDR ยังเก็บทองคำเข้าพอร์ตต่อเนื่อง ทั้งปีซื้อเพิ่มแล้ว 114.83 ตัว ส่วนทิศทางทางการเคลื่อนไหวทองคำมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,974-1,991 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ทองคำในประเทศมีโอกาสเห็น 31,300-31,500 บาท

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มปรับตัวขึ้นมาสวนทางกับดัชนีสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ดัชนีตลาดหุ้น จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยเฉพาะล่าสุดหลายประเทศในยุโรปที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) มีความต้องการเข้าเป็นสมาชิก สถานการณ์นี้อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น จึงส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวลง นอกจากนี้ประเด็นเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะทำการดึงเงินออกจากระบบเพื่อรักษาเงินเฟ้ออาจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในทิศทางรุนแรงมากขึ้น นักลงทุนจึงมีความกังวลในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเริ่มเข้าลงทุนในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ดังจะเห็นได้จากกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ยังคงเข้าทำการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถือครองทองคำเพิ่ม 3.19 ตัน สู่ระดับ 1,090.49 ตัน ทำให้ปี 2565 กองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม 114.83 ตัน

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำถือว่ามีทิศทางค่อยๆ ปรับตัวขึ้น และมีโอกาสปรับขึ้นไปที่ 1,974-1,991 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้อาจปรับตัวขึ้นไปที่ 2,008 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี หากไม่มีปัจจัยบวกมาสนับสนุนอาจย่อตัวลงมาเพื่อสะสมกำลังในการปรับตัวขึ้นรอบใหม่ ส่วนแนวรับมองที่ 1,939 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับถัดไป 1,923 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในรูปแบบเงินบาทมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 30,600-31,500 โดยในระยะสั้นแนะนำแบ่งขายเมื่อมีกำไร

สำหรับสัปดาห์นี้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกยังคงเป็นไปตามปกติ แต่ตลาดในประเทศไทยนั้นต้นสัปดาห์จะมีมูลค่าการซื้อขายเบาบางเนื่องจากในสัปดาห์นี้จะมีวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ แม้จะเป็นช่วงสถานการณ์วันหยุด ยังคงต้องจับตาความเคลื่อนไหวในต่างประเทศโดยเฉพาะสถานการณ์ความตึงเครียดยูเครน-รัสเซีย ในส่วนของนักลงทุนที่ลงทุนในตลาด TFEX ควรลดสถานการณ์ถือครองในช่วงวันหยุดยาว อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสการลงทุนในช่วงวันหยุดยาวนั้น สามารถเลือกลงทุนในตลาด CME ซึ่งเป็นตลาด Futures อันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ ที่มีสินค้าที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกครอบคลุมทองคำ น้ำมันดิบ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ cryptocurrency สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้งสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย

โดย YLG ร่วมมือกับ CME Group นักลงทุนที่ใช้บริการผ่าน YLG สามารถลงทุนได้ในทุกบริการ เช่น Precious Metal futures, Oil futures, Cryptocurrency futures, Forex futures ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งกองทุนสถาบันในการเข้าไปซื้อขายสินค้า พร้อมเชื่อมต่อ Exchange ทั่วทั้งโลกไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ ตลาด CME group ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย มีกฎหมายรองรับการซื้อขาย หมดห่วงเรื่องการแอบอ้างเป็นมิจฉาชีพ ด้วยสภาพคล่องและราคาที่โปร่งใส เชื่อถือได้บน CME Global market

รวมถึงเพิ่มโอกาสทำกำไรแบบไร้ขีดจำกัด ผ่าน Cryptocurrency เช่น Bitcoin Futures ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการซื้อขาย BTC futures ทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรสามารถ hedging ความเสี่ยง หรือเทรดได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง และยังสามารถเทรด Bitcoin futures ด้วยขนาดสัญญาที่เล็กลงได้ด้วย และ Micro bitcoin futures ด้วยขนาดที่เล็กกว่า 1 ใน 10 ของ bitcoin futures ซึ่งจะทำให้นักลงทุนใช้เงินวางหลักประกันที่ต่ำกว่า ทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรสามารถจัดการกับความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket