ตลาดหุ้นปิดลบ -4.47 จุด โบรก ฯ ชี้ ตลาดกลับมากังวล สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนหลัง “โจ ไบเดน” ประกาศเข้าร่วมยูเครนต้านรัสเซีย พร้อมแนะจับตา “เจอโรม พาวเวล” สบช่องรัสเซียโจมตียูเครน อาจถือโอกาสเหมาะเป็นข้ออ้างปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25-0.50%

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 2 มีนาคม 2565 ปรับตัวลดลง -4.47 จุด หรือ -0.26% โดยปิดตลาดที่ 1,689.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 107,131.20 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมในวันนี้ ดัชนี SET INDEX แกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยในระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,699.58 จุด และปรับตัวลดลงระดับต่ำสุดที่ 1,684.53 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 559 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 450 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,333 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 2,911.16 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 245.36 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,886.14 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -270.38 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 8,955.05 ล้านบาท ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 7,090.56 ล้านบาท ปิดที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,623.17 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,010.18 ล้านบาท ปิดที่ 39.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
5.BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,528.07 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น +12.00 บาท หรือ +8.73%
2.BANPU ปิดที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น +0.80 บาท หรือ +7.08%
3.ESSO ปิดที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท หรือ +3.27%
4.IVL ปิดที่ 46.75 บาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท หรือ +2.75%
5.TTA ปิดที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท หรือ +2.51%

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.HANA ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง -3.75 บาท หรือ -7.35%
2.SCGP ปิดที่ 58.25 บาท ลดลง -3.50 บาท หรือ -5.67%
3.TQM ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง -2.75 บาท หรือ -5.91%
4.BLA ปิดที่ 40.25 บาท ลดลง -2.25 บาท หรือ -5.29%
5.RS ปิดที่ 16.10 บาท ลดลง -0.90 บาท หรือ -5.29%

ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,318.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.35 จุด หรือ 0.01% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,023.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด หรือ 0.17% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 636.59 จุด ลดลง -3.05 จุด หรือ -0.48%

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกวิตกสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศยืนข้างยูเครน แม้จะไม่ใช่การช่วยเหลือด้านกำลังทหาร แต่อาจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียยังคงโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก Panic ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ปรับลงหลังเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เป็น Sentiment เชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นไทย

อย่างไรก็ดี ในช่วง 1-2 วันนี้มองว่าตลาดจะให้ความสนใจกับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 2 มี.ค. และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค.รวมถึงติดตามการประชุมเฟด ซึ่งมีโอกาสที่เฟดจะหยิบยกสถานการณ์รัสเซียบุกโจมตียูเครนมาพิจารณาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ในระดับ 0.25-0.50%

นอกจากนี้ จากความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน และการประชุมเฟด ทำให้ตลาดแกว่งตัวออกด้านข้าง ขณะเดียวกันการที่ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงน้อยกว่าตลาดอื่น ๆ เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งช่วยให้เกิดแรงซื้อกลุ่มพลังงานช่วยประคองตลาดไว้ได้ระดับหนึ่ง นำโดย PTTEP , BANPU แต่ sentiment เชิงลบทำให้ภาพรวมตลาดแกว่งตัว sideway-sideway down

ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด และสถานการณ์ในยูเครน คาดว่าตลาดคงพักฐานและอาจอ่อนตัวลงไปทดสอบระดับแนวรับของสัปดาห์นี้ที่ 1,660-1,670 จุดได้แ แต่ยังให้แนวรับพรุ่งนี้ที่ 1,675 จุด แนวต้าน 1,700 จุด

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket