ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ผนึกกำลังเจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) รับกระแสโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ออกประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) ใหม่ “KKPGEN Wealth Signature Link (3P)” ทางเลือกการวางแผนทางการเงินที่ให้ครบและคุ้มค่าในสภาวะตลาดผันผวน ชูจุดเด่นตอบโจทย์ด้านความคุ้มครองชีวิตที่ให้สูงสุดถึง 5 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักรายปี แตกต่างด้วยระยะเวลาชำระเบี้ยสั้นเพียง 3 ปี และเปิดโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างอิสระในระยะยาว

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินทรัพย์ ไม่เฉพาะเพียงกลุ่มนักลงทุนแต่ขยายสู่กลุ่มวัยทำงานมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น การลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันแบบควบการลงทุน หรือยูนิตลิงค์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งจากการร่วมมือของเจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) และธนาคารเกียรตินาคินภัทร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยูนิตลิงค์มีอัตราการเติบโตสูง ล่าสุดในปี 2564 เติบโตสูงถึง 59% จากปีก่อน และเป็นอันดับ 4 เมื่อเทียบกับตลาด ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ ผลประโยชน์ที่ตอบโจทย์ด้านเป้าหมายทางการเงินที่หลากหลาย และบริการที่ปรึกษาด้านประกันและการลงทุนที่เราใส่ใจดูแลลูกค้าด้วยความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ ตลอดจนการรับฟังความต้องการของลูกค้าและนำมาปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจลูกค้าอยู่เสมอ

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ถือเป็นยูนิตลิงค์แบบชำระเบี้ยประกันภัย 3 ปี เจ้าเดียวในตลาด ณ ปัจจุบันที่ขายผ่านช่องทางธนาคาร คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี ด้วยความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 5 เท่า ของเบี้ยประกันภัยหลักรายปี (ขึ้นอยู่กับอายุของผู้เอาประกันภัย ณ ปีกรมธรรม์ที่เสียชีวิต) ส่วนด้านการลงทุนสามารถเลือกและปรับเปลี่ยนได้เองจากกองทุนรวมคุณภาพที่บริษัทฯ คัดสรรมาให้ พร้อมกับบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนจากธนาคารเกียรตินาคินภัทรตลอดระยะเวลาที่ถือกรมธรรม์ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีความแตกต่างไม่ใช่เพียงแค่ผลประโยชน์ของกรมธรรม์ แต่ยังรวมไปถึงความใส่ใจและบริการอย่างมืออาชีพด้วยเช่นกัน

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า KKPGEN Wealth Signature Link (3P) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งด้านการป้องกันความเสี่ยงด้วยความคุ้มครองชีวิตที่มีผลประโยชน์แน่นอนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ และด้านโอกาสเติบโตของผลตอบแทนในสินทรัพย์ที่ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้อย่างยืดหยุ่น เช่น การเลือกกองทุนรวมได้ด้วยตัวเอง การสับเปลี่ยนกองทุนรวมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย การจัดสรรสัดส่วนการถือครองหน่วยลงทุน และการเพิ่มเงินลงทุนได้ตามจังหวะที่เหมาะสม ที่สำคัญที่สุดคือการคัดสรรกองทุนรวมที่เชื่อถือได้ และการให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนอย่างเหมาะสมกับผลตอบแทนและความเสี่ยงจากผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น มูลค่าเบี้ยประกันที่ชำระมาจึงมีโอกาสเติบโตตามได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในอนาคต ผลิตภัณฑ์นี้เรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเตรียมรับมือกับการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพเพราะเป็นแผนการเงินระยะยาว หรือจะใช้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนด้านการศึกษาของลูกหรือแผนการส่งต่อมรดกได้เช่นกัน

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket