“หมอเฉลิมชัย” แนะไทยเตรียมรับมือกับ 4 แนวทาง หลังมีผู้เสียชีวิตจาก “โอไมครอน” รายแรกของโลกแล้ว

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้โพสต์ blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” โดยมีข้อความระบุว่า ด่วน!! พบผู้เสียชีวิตจาก Omicron (โอมิครอน) รายแรกที่อังกฤษ นายก Johnson แถลงว่าจะเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ได้วันละ 1 ล้านโด๊ส หลังจากองค์การอนามัยโลก ประกาศให้ Omicron เป็นไวรัสกลุ่มน่ากังวล เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ความหวั่นใจของชาวโลกเนื่องมาจากข้อมูลที่บอกว่า ไวรัสมีความสามารถในการแพร่ระบาดเร็วกว่าเดลตา 2-5 เท่า และมีการดื้อต่อวัคซีนเข็ม 2 ของไฟเซอร์ด้วย ส่วนที่พอจะทำให้เบาใจอยู่บ้างก็คือ ความรุนแรงของผู้ติดเชื้อ Omicron ไม่มากนัก และยังไม่มีผู้เสียชีวิตเลย

อย่างไรก็ตาม มีข่าวด่วนแจ้งว่า นายกรัฐมนตรี Boris Johnson ของอังกฤษแถลงว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่อังกฤษได้พบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัส Omicron แล้ว โดยที่อังกฤษมีอัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อ Omicron เป็นสองเท่าทุก 2-3 วัน ซึ่งรวดเร็วกว่าไวรัสเดลตามาก ทำให้ระบบสุขภาพของอังกฤษเริ่มประสบปัญหาเหมือนการระบาดในระลอกที่แล้ว มีการต้องเลื่อนนัดคนไข้ เลื่อนนัดผ่าตัดออกไปเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมเตียงไว้รองรับผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทางการอังกฤษได้ประกาศนโยบายเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปี เพื่อเป็นการรับมือกับไวรัส Omicron และได้ร่นระยะเวลาจากการฉีดห่างจากเข็มสอง 6 เดือน เหลือเพียง 3 เดือน

ทั้งนี้ได้มีการตั้งเป้าหมายเพื่อรับมือกับไวรัส Omicron ที่กำลังระบาดหนักในอังกฤษ โดยจะเร่งฉีดเข็ม 3 ให้ครบตามที่ต้องการภายในเดือนมกราคม 2565 ซึ่งจำเป็นจะต้องฉีดด้วยอัตราเพิ่มเป็นสองเท่าของปัจจุบันคือ ต้องฉีดให้ได้วันละ 1 ล้านโด๊ส ไวรัส Omicron จึงเป็นเรื่องจริงจังและคุกคามมนุษยชาติ หลังจากที่เดลตาและอัลฟาได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงมาแล้ว

ในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าความรุนแรงของไวรัส จะส่งผลต่อการเสียชีวิตมากน้อยเพียงใด แต่มีหลักฐานชัดเจนในวันนี้ว่า ทำให้เสียชีวิตได้

สิ่งที่ประเทศไทยควรเตรียมการเพื่อรองรับได้แก่
1.เข้มงวดคนเดินทางเข้าจากต่างประเทศทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะจากทวีปแอฟริกาเท่านั้น
2.เข้มงวดในช่องทางธรรมชาติต่างๆ ที่จะมีผู้ลักลอบเดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย
3.เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ครบโดยเร็วภายในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งน่าจะทำได้ เพราะขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 97 ล้านโด๊ส
4.เร่งฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ให้ผู้ที่ฉีดเข็ม 2 แล้ว ให้ครบถ้วนภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะต้องใช้ความสามารถในการฉีดวันละ 600,000 ถึง 1,000,000 โด๊ส และร่นระยะเวลาจากที่จะฉีดเข็ม 3 ห่างเข็ม 2 ลงมาเหลือ 1-3 เดือน
ก็จะทำให้ประชาชนชาวไทยมีภูมิคุ้มกัน ที่พอจะรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส Omicron ซึ่งกำลังระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (covid-19) ในประเทศไทยวันที่ 14 ธันวาคม 2564 นั้น “ฐานเศรษฐกิจ” ติดตามข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,862 ราย

ผู้ป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,146,043 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 37 ราย หายป่วยเพิ่ม 4,818 ราย กำลังรักษา 47,531 ราย หายป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,078,718 ราย.